Liver Detox ดีท็อกซ์ตับ วิธีการช่วยขจัดสารพิษอย่างมีประสิทธิภาพ

Liver Detox (การดีท็อกซ์ตับ) คือกระบวนการช่วยส่งเสริมการทำงานของตับในการขจัดสารพิษ (Toxin) สารเคมีตกค้างจากอาหาร ยา เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมลภาวะต่างๆ ที่สะสมในร่างกาย ตับเป็นอวัยวะหลักที่ทำหน้าที่กรองและกำจัดของเสีย ซึ่งเมื่อเรารับสารพิษเข้าสู่ร่างกายเป็นเวลานานโดยไม่ได้ขับออก อวัยวะนี้อาจทำงานหนักและส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม การดีท็อกซ์จึงเป็นกระบวนการช่วยลดภาระให้ตับ ฟื้นฟูการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ประโยชน์
- ช่วยฟื้นฟูการทำงานของตับให้แข็งแรงขึ้น
- ขจัดสารพิษ สารเคมีตกค้าง ยา หรือแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย
- ส่งเสริมการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหารให้มีประสิทธิภาพ
- ช่วยลดอาการบวม เหนื่อยง่าย หรือปวดเมื่อยเรื้อรัง
- เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายต้านทานโรคได้ดีขึ้น
- ช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใส ลดสิวและผื่นแพ้ที่เกิดจากระบบขับพิษทำงานไม่สมดุล
- ช่วยควบคุมน้ำหนัก และลดการสะสมไขมัน
เหมาะกับใคร
- ผู้ที่รู้สึกอ่อนเพลียเรื้อรัง เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง
- ผู้ที่มีปัญหาผิวพรรณ เช่น สิว ผิวหมองคล้ำ หรือผื่น
- ผู้ที่ปวดศีรษะบ่อย มีอาการมึนงง หรือความจำไม่ดี
- ผู้ที่มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือระบบขับถ่ายผิดปกติ
- ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือรับประทานยาหลายชนิด
- ผู้ที่รับประทานอาหารแปรรูป อาหารที่มีสารปรุงแต่งบ่อย
- ผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับ หรือต้องการควบคุมน้ำหนัก
ขจัดสารตกค้างด้วยวิธีธรรมชาติ
1. รับประทานอาหารที่ช่วยขับสารพิษ
อาหารที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของตับในการขจัดสารเคมีสะสมมีหลากหลายชนิด โดยเฉพาะผักใบเขียว เช่น บรอกโคลี ผักโขม คะน้า ซึ่งมีคลอโรฟิลล์ที่ช่วยจับสารพิษในเลือด และผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น มะนาว ส้ม และเกรปฟรุต ซึ่งมีวิตามินซีสูง ช่วยส่งเสริมการผลิตสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ สมุนไพรอย่างขมิ้นชัน กระเทียม และขิง มีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน
น้ำเป็นตัวกลางสำคัญที่ช่วยขับของเสียออกจากร่างกายผ่านไตและผิวหนัง ดังนั้นแล้วควรดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตร หรือมากกว่านั้นในวันที่ออกกำลังกายหรืออยู่ในสภาพอากาศร้อน การดื่มน้ำอุ่นในตอนเช้าหลังตื่นนอน ยังช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายและการไหลเวียนของน้ำดีจากตับได้อีกด้วย
3. หลีกเลี่ยงมลภาวะจากอาหารและสิ่งแวดล้อม
ลดการบริโภคอาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก เบคอน อาหารสำเร็จรูป และอาหารที่มีสารกันบูด รวมถึงน้ำตาลปริมาณสูง อาหารมันทอดที่มีไขมันทรานส์ และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะสิ่งเหล่านี้เพิ่มภาระให้ตับในการกรองสารพิษ ควรเลือกทานอาหารสดใหม่ ปรุงสุก และใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติให้มากที่สุด
4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายอย่างน้อย 3–5 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละประมาณ 30–60 นาที ไม่เพียงแต่ช่วยเผาผลาญพลังงาน แต่ยังช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและระบบน้ำเหลืองให้ทำงานได้ดีขึ้น รวมถึงการขับของเสียออกผ่านทางเหงื่อ ช่วยลดการสะสมของสารพิษในผิวหนังและระบบภายใน นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนความสุข ลดความเครียดที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยทำให้ร่างกายสะสมสารพิษ
5. พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับอย่างมีคุณภาพวันละ 7–9 ชั่วโมง เป็นสิ่งจำเป็นต่อกระบวนการซ่อมแซมร่างกายและขับสารพิษโดยเฉพาะในช่วงกลางคืน ซึ่งเป็นเวลาที่ตับทำหน้าที่ขจัดสารพิษได้ดีที่สุด หากพักผ่อนไม่พอ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเครียดมากขึ้น และระบบภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลง
6. หายใจลึก ๆ ด้วยการฝึกสมาธิหรือโยคะ
การหายใจลึก ๆ ช่วยนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายอย่างเพียงพอ และช่วยขับคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นของเสียออกจากปอดได้ดีขึ้น
7. ใช้การอบซาวน่าหรืออบไอน้ำ
อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยขับของเสียออกทางผิวหนังได้ดี คือการใช้ความร้อนจากซาวน่าหรืออบไอน้ำ ซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ขับเหงื่อ และลดการอักเสบในร่างกาย โดยควรทำอย่างพอเหมาะ และดื่มน้ำให้เพียงพอหลังการอบ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
การทำ IV Drip
ในกรณีที่ต้องการล้างสารพิษออกจากตับอย่างรวดเร็วและเห็นผลที่ชัดเจน การให้สารอาหารที่จำเป็นผ่านสายน้ำเกลือหรือการทำ IV Drip ก็เป็นอีกวิธีที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบัน
โดยโปรแกรมการทำ IV Drip ของทาง The Wellness Thonglor ของเรานั้น ใช้สูตรเฉพาะที่ออกแบบมาสำหรับแต่ละคนไข้ โดยจะประกอบด้วย:
- วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน C, B-complex, Glutathione
- Amino Acid และตัวยากลุ่มฟื้นฟู เช่น NAC (N-Acetyl Cysteine), Alpha-Lipoic Acid
- สารสกัดสมุนไพรที่ช่วยเสริมการทำงานของตับ
ข้อดีของวิธีนี้
- เห็นผลไว รู้สึกเบาตัว ผิวกระจ่างใสขึ้น
- ดูดซึมเข้าร่างกายได้อย่างมีประสิธิถาพ เนื่องจากไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยในระบบทางเดินอาหาร
- ปลอดภัย เพราะอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
ขั้นตอน
- การประเมินสุขภาพ: แพทย์จะทำการซักประวัติและตรวจร่างกายเพื่อเลือกสูตรวิตามินที่เหมาะสม
- การเตรียมสารอาหาร: วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ จะถูกผสมในน้ำเกลือให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละบุคคล
- การให้สารอาหารทางสายน้ำเกลือ: ใช้เวลาในการดริปประมาณ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับปริมาณของสารอาหาร
- การติดตามผลหลังการรักษา: แพทย์อาจให้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพหลังรับบริการ
ความถี่ในการทำ
1 ครั้ง ต่อสัปดาห์ ต่อเนื่อง 4–6 ครั้ง ขึ้นอยู่กับภาวะของร่างกาย
ผลข้างเคียงที่อาจพบในบางกรณี
ในช่วงแรกของการล้างสารพิษ อาจมีอาการอ่อนเพลีย ปวดหัว หรือท้องเสียเล็กน้อย เนื่องจากร่างกายกำลังปรับตัวและขับพิษออก แต่อาการเหล่านี้มักเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น โดยหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ ให้ทำการแจ้งให้กับแพทย์ของเราทราบ
ราคา
ราคาการดีท็อกซ์ตับนั้นเฉลี่ยอยู่ที่ 2,000 – 4,500 บาทต่อครั้ง โดยจะแตกต่างกันไปตามส่วนประกอบของ IV Drip และสูตรที่ใช้
ติดต่อ The Wellness Thonglor
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ Liver Detox ติดต่อเราวันนี้ โทร 0661642492 ADD LINE หรือทำการนัดผู้เชี่ยวชาญของเราเพิ่อขอข้อมูลเพิ่มเติม