ระบบเผาผลาญพัง คืออะไร เกิดจาก มีอาการอย่างไร แก้ยังไงบ้าง

ระบบเผาผลาญพัง คือภาวะที่ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดการสะสมของไขมัน น้ำหนักเพิ่มง่าย และเหนื่อยล้าเรื้อรัง โดยสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นไลฟไสตล์การใช้ชีวิต อายุที่มากขึ้น รวมไปถึงการที่ร่างกายมีฮอร์โมนไม่สมดุลกัน
เกิดจาก
สาเหตุการเกิดภาวะระบบเผาผลาญพังนั้นมีมากมาย โดยหลักๆ เกิดมาจาก:
- การอดอาหารหรือกินน้อยเกินไปเป็นเวลานาน: ทำให้ร่างกายปรับตัวเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานเพื่อเอาตัวรอด ซึ่งทำให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง ฮอร์โมนหิว-อิ่มเสียสมดุล และส่งผลให้แม้จะกินน้อย ร่างกายก็ยังสะสมไขมันได้ง่าย
- พักผ่อนไม่เพียงพอ: ส่งผลต่อฮอร์โมนที่ควบคุมความหิวและพลังงาน
- ขาดการออกกำลังกาย: โดยเฉพาะการฝึกกล้ามเนื้อ ทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลง ซึ่งกล้ามเนื้อเป็นเนื้อเยื่อที่ใช้พลังงานสูง หากกล้ามเนื้อน้อย ระบบเผาผลาญจะช้าลงแม้ขณะพัก
- ความเครียดเรื้อรัง: ทำให้ระดับคอร์ติซอล (Cortisol) สูงซึ่งคอร์ติซอลมีผลต่อการเก็บสะสมไขมัน (โดยเฉพาะรอบเอว) ลดมวลกล้ามเนื้อ และรบกวนการนอนหลับ ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ระบบเผาผลาญเสียสมดุล
- ฮอร์โมนไม่สมดุล: เช่น ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ ภาวะอินซูลินดื้อ
- อายุที่เพิ่มขึ้น: ทำให้ระบบเผาผลาญช้าลงตามธรรมชาติ
- ดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่เป็นประจำ: แอลกอฮอล์ส่งผลต่อการทำงานของตับและฮอร์โมนเผาผลาญไขมัน ขณะที่การสูบบุหรี่รบกวนระดับออกซิเจนในเซลล์ ส่งผลให้การเผาผลาญพลังงานมีประสิทธิภาพลดลง
- ขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบเมตาบอลิซึม: เช่น ไอโอดีน ธาตุเหล็ก วิตามินบี ซึ่งสารอาหารเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการทำงานของเอนไซม์และฮอร์โมนเผาผลาญ หากร่างกายได้รับไม่เพียงพอจะทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่เต็มที่
อาการที่พบ
- น้ำหนักขึ้นง่าย แม้กินเท่าเดิมหรือกินน้อย
- เหนื่อยล้า อ่อนเพลียตลอดวัน
- มือเท้าเย็น ผิวแห้ง ผมร่วง
- ขับถ่ายไม่ปกติ ท้องผูกบ่อย
- นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท
- หิวง่าย โดยเฉพาะของหวาน
- อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย
- สมองล้า ความจำลดลง
ผลกระทบหากปล่อยให้เป็นเรื้อรัง
- เสี่ยงต่อโรคอ้วน ไขมันพอกตับ เบาหวาน ความดันสูง
- พลังงานต่ำ ทำให้คุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
- รบกวนระบบฮอร์โมนในร่างกาย
- เพิ่มความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าและสมองล้า
- ระบบย่อยอาหารทำงานแย่ลงเรื่อย ๆ
- ฟื้นฟูร่างกายได้ช้าลงเมื่อเจ็บป่วย
วิธีแก้ไข
1. กินอาหารให้เพียงพอและมีคุณภาพ
การอดอาหารหรือกินน้อยเกินไปในระยะเวลานานจะทำให้ร่างกายเข้าสู่ “โหมดประหยัดพลังงาน” ซึ่งส่งผลให้ระบบเผาผลาญช้าลงอย่างมาก วิธีฟื้นคือค่อย ๆ เพิ่มปริมาณอาหาร (reverse dieting) และเน้นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น โปรตีนไม่ติดมัน ธัญพืชไม่ขัดสี ผัก ผลไม้ และไขมันดี อาหารเหล่านี้ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและรักษาสมดุลของฮอร์โมนได้ดี
2. ออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งและ HIIT
การออกกำลังกายที่ใช้แรงต้าน เช่น ยกเวท หรือ bodyweight training ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งส่งผลต่อการเผาผลาญระยะยาว นอกจากนี้การออกกำลังกายแบบ HIIT ยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญต่อเนื่องได้หลายชั่วโมงหลังออกกำลังกาย ไม่ใช่แค่ตอนที่ร่างกายกำลังเคลื่อนไหวเท่านั้น จึงเหมาะกับผู้ที่มีเวลาจำกัดแต่ต้องการผลลัพธ์เร็ว
3. นอนหลับให้เพียงพอและมีคุณภาพ
การนอนที่ไม่เพียงพอทำให้ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความหิว (เกรลิน) และความอิ่ม (เลปติน) ผิดสมดุล ส่งผลให้กินมากขึ้นและระบบเผาผลาญลดลง การนอน 7–9 ชั่วโมงต่อคืน และเข้านอน-ตื่นนอนให้เป็นเวลา ช่วยให้ฮอร์โมนกลับมาทำงานปกติและสนับสนุนกระบวนการเผาผลาญได้ดีขึ้น
4. ลดความเครียดและควบคุมคอร์ติซอล
ความเครียดเรื้อรังทำให้ระดับคอร์ติซอลสูง ซึ่งจะกระตุ้นให้ร่างกายกักเก็บพลังงานและไขมันมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง การผ่อนคลายผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เดินเล่น ทำสมาธิ โยคะ หรือการใช้เทคนิคหายใจลึก ๆ จะช่วยลดระดับคอร์ติซอลและฟื้นการทำงานของระบบเผาผลาญได้อย่างเป็นธรรมชาติ
5. ปรับสมดุลฮอร์โมนที่มีปัญหา
ในบางกรณี ระบบเผาผลาญอาจพังจากความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ ภาวะดื้อต่ออินซูลิน หรือพร่องฮอร์โมนเพศ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยและดูแลโดยแพทย์ หากสงสัยว่าเผาผลาญแย่เพราะฮอร์โมน ควรตรวจเลือดแบบละเอียดและเริ่มโปรแกรมปรับสมดุลอย่างเหมาะสม อาจรวมถึงการใช้ฮอร์โมนเสริมหรือเวชศาสตร์ฟื้นฟู
6. เติมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น
วิตามินดี, B-complex, แมกนีเซียม, สังกะสี และไอโอดีน ล้วนมีบทบาทในการช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างราบรื่น หากขาดจะส่งผลให้เผาผลาญช้าลงหรือเหนื่อยง่าย การเสริมผ่านอาหารหรืออาหารเสริมสามารถช่วยได้ หรือหากต้องการเห็นผลเร็วอาจใช้การให้วิตามินทางหลอดเลือด (IV Drip) ภายใต้การดูแลของแพทย์
7. ปรับสมดุลลำไส้
ลำไส้เป็นศูนย์กลางของระบบภูมิคุ้มกัน การย่อยอาหาร และแม้แต่การสร้างสารสื่อประสาทที่มีผลต่อการเผาผลาญ การกินอาหารที่มีพรีไบโอติก เช่น กล้วย ข้าวโอ๊ต หรืออาหารหมักดองที่มีโพรไบโอติกส์อย่างโยเกิร์ต กิมจิ หรือเทมเป้ จะช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียดีในลำไส้ และสนับสนุนการเผาผลาญให้ทำงานได้ดีขึ้น
ปรับระบบ Metabolism แบบองค์รวมที่ The Wellness Thonglor
ที่ The Wellness Thonglor ของเรามีบริการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่ช่วยฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่ส่งผลให้ระบบเผาผลาญพังหรือมีปัญหา โดยทางคลินิกของเรามีบริการมากมาย เช่น:
- ตรวจสุขภาพแบบองค์รวม: ที่ช่วยเช็ควิเคราะห์ว่าร่างกายขาดฮอร์โมนและสารอาหารที่จำเป็นอะไรบ้าง
- บริการ Vitamin IV Drip: บริการเติมวิตามินและสารอาหารผ่านเส้นเลือด มาพร้อมสูตร Slim Fast พิ่มการเผาผลาญไขมันอย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสุขภาพและการลดน้ำหนัก
- บริการให้คำปรึกษาด้านโ๓ชณาการและ Life Style: โดยผู้เชี่ยวชาญ ที่จะช่วยมาออกแบบการกินและการใช้ชีวิตประจำวันของคุณที่เหมาะสม
ดต่อวันนี้ โทร 0661642492 ADD LINE หรือทำการนัดผู้เชี่ยวชาญของเราเพิ่อขอข้อมูลเพิ่มเติม